เขาเข้ามาเพื่อล่อหลอกเอาหัวใจของเธอ แต่เขาไม่รู้ หัวใจเธออยู่ที่เขามานานเหลือเกินแล้ว ในเพลิงรักนี้เธอสยบยอมทุกอย่าง แต่เหมือนผู้พ่ายกลับกลายเป็นเขา!... ***** เสียงปลดล็อกไฟฟ้าดัง กีร์ตานเปิดประตูก้าวขึ้นไป พอจะดึงปิดก็มีมือหนึ่งมารั้งไว้ “เขยิบไป” เสียงห้วนข่มขู่ แทรกเข้ามาในความงันงงของหญิงสาว ต่อเมื่อรู้สึกตัวเธอพยายามดันสะโพกเขาออก เพื่อที่จะได้ดึงประตูปิดได้ แต่เขายืนปักหลักเหมือนยักษ์ปักหลั่น “เขยิบไป” คนข้างรถบอกอีก เสียงเข้มกว่าเดิม ครั้นไม่เห็นทีท่าว่าเธอจะยอมขยับ เขาก็ดันตัวแทรกเข้ามานั่งในตำแหน่งหลังพวงมาลัยดื้อๆ กลายเป็นเธอต้องตาลีตาลานกระเถิบไปยังที่นั่งข้างๆ “บอกแล้วใช่ไหมอย่าเอาดอกไม้ไปให้โน้ต” คนเตรียมขึงตาใส่อย่างไม่พอใจชะงัก ขบปากนิ่ง เธอไปจริงๆ แหละเมื่อวาน ต่อให้ช่อดอกไม้ต้องอยู่ใต้เท้าเขาก็ช่างปะไร เธอเอาไปให้เพื่อน ให้แล้วก็แล้วกัน พี่ของเพื่อนจะเอาไปทำอะไรช่างสิ...เธอคิดไว้แค่นั้น ไม่นึกว่าจะตามมาหาเรื่องถึงที่ “ฉันไม่สนว่าคุณจะทำยังไงกับช่อดอกไม้ ฉันแค่อยากมอบมันให้เพื่อน” “ฮึ! เพื่อน คุณคิดว่าโน้ตเป็นเพื่อนคุณจริงๆ หรือ เพื่อนเขาไม่ทำกับเพื่อนแบบนั้นหรอก” แววเข้มขรึมในดวงตาหญิงสาวเปลี่ยนเป็นอ่อนแสง นึกถึงเรื่องที่ทะเลาะกันในวันนั้นความเจ็บปวดก็ประดังประเดเข้ามา “พี่นาทคะ ฟังกีร์นิดได้ไหม...” เธอเสียงเครือ “ผมไม่ใช่พี่คุณ ไม่ต้องมาเรียกว่าพี่” คำตวาดหยุดคำพูดหญิงสาวได้ในฉับพลัน เธอนั่งอึ้งมอง ยิ่งเจ็บจนน้ำใสๆ เอ่อท้นเต็มขอบตา นั่นสิ ตลอดเวลาที่เธอเรียกเขา ‘พี่นาท’ เขาไม่เคยหลุดแทนตัวเอง ‘พี่’ สักคำ มีแต่เธอละเมอเออออไปคนเดียว เขาเลื่อนสายตามองไปหน้ารถ ราวกับไม่อยากเห็นความรู้สึกที่สะท้อนออกมาจากแววตาคู่นั้น หากอึดใจเต็มก็หันกลับมา “กลับที่พักหรือ ให้ไปส่งไหม” เธองุนงงว่าเขาจะมาไม้ไหน สำเนียงยั่วเยาะก็บอก “แต่ขอเปิดห้องสักชั่วโมงสองชั่วโมงก่อนนะ ไหนๆ ก็อยู่ในโรงแรมแล้ว เหมือนทุกทีไง ก่อนผมไปส่ง คุณต้องป้อนให้อิ่ม” “พี่นาท!” กีร์ตานแทบจะร้องกรี๊ด เสียงห้าวหัวเราะร่วน พร้อมกับที่ร่างสูงใหญ่เปิดประตูออกไป เมื่อประตูปิดกลับคนข้างหลังซบสะอื้นลงกับคอนโซล จบไปเสียเฉยๆ ก็ปวดร้าวมากพอ ยังจะตามมาเหยียบย่ำซ้ำเติมกันอีก คนอะไรร้ายกาจเหลือเกิน!
เขาเข้ามาเพื่อล่อหลอกเอาหัวใจของเธอ แต่เขาไม่รู้ หัวใจเธออยู่ที่เขามานานเหลือเกินแล้ว ในเพลิงรักนี้เธอสยบยอมทุกอย่าง แต่เหมือนผู้พ่ายกลับกลายเป็นเขา!... ***** เสียงปลดล็อกไฟฟ้าดัง กีร์ตานเปิดประตูก้าวขึ้นไป พอจะดึงปิดก็มีมือหนึ่งมารั้งไว้ “เขยิบไป” เสียงห้วนข่มขู่ แทรกเข้ามาในความงันงงของหญิงสาว ต่อเมื่อรู้สึกตัวเธอพยายามดันสะโพกเขาออก เพื่อที่จะได้ดึงประตูปิดได้ แต่เขายืนปักหลักเหมือนยักษ์ปักหลั่น “เขยิบไป” คนข้างรถบอกอีก เสียงเข้มกว่าเดิม ครั้นไม่เห็นทีท่าว่าเธอจะยอมขยับ เขาก็ดันตัวแทรกเข้ามานั่งในตำแหน่งหลังพวงมาลัยดื้อๆ กลายเป็นเธอต้องตาลีตาลานกระเถิบไปยังที่นั่งข้างๆ “บอกแล้วใช่ไหมอย่าเอาดอกไม้ไปให้โน้ต” คนเตรียมขึงตาใส่อย่างไม่พอใจชะงัก ขบปากนิ่ง เธอไปจริงๆ แหละเมื่อวาน ต่อให้ช่อดอกไม้ต้องอยู่ใต้เท้าเขาก็ช่างปะไร เธอเอาไปให้เพื่อน ให้แล้วก็แล้วกัน พี่ของเพื่อนจะเอาไปทำอะไรช่างสิ...เธอคิดไว้แค่นั้น ไม่นึกว่าจะตามมาหาเรื่องถึงที่ “ฉันไม่สนว่าคุณจะทำยังไงกับช่อดอกไม้ ฉันแค่อยากมอบมันให้เพื่อน” “ฮึ! เพื่อน คุณคิดว่าโน้ตเป็นเพื่อนคุณจริงๆ หรือ เพื่อนเขาไม่ทำกับเพื่อนแบบนั้นหรอก” แววเข้มขรึมในดวงตาหญิงสาวเปลี่ยนเป็นอ่อนแสง นึกถึงเรื่องที่ทะเลาะกันในวันนั้นความเจ็บปวดก็ประดังประเดเข้ามา “พี่นาทคะ ฟังกีร์นิดได้ไหม...” เธอเสียงเครือ “ผมไม่ใช่พี่คุณ ไม่ต้องมาเรียกว่าพี่” คำตวาดหยุดคำพูดหญิงสาวได้ในฉับพลัน เธอนั่งอึ้งมอง ยิ่งเจ็บจนน้ำใสๆ เอ่อท้นเต็มขอบตา นั่นสิ ตลอดเวลาที่เธอเรียกเขา ‘พี่นาท’ เขาไม่เคยหลุดแทนตัวเอง ‘พี่’ สักคำ มีแต่เธอละเมอเออออไปคนเดียว เขาเลื่อนสายตามองไปหน้ารถ ราวกับไม่อยากเห็นความรู้สึกที่สะท้อนออกมาจากแววตาคู่นั้น หากอึดใจเต็มก็หันกลับมา “กลับที่พักหรือ ให้ไปส่งไหม” เธองุนงงว่าเขาจะมาไม้ไหน สำเนียงยั่วเยาะก็บอก “แต่ขอเปิดห้องสักชั่วโมงสองชั่วโมงก่อนนะ ไหนๆ ก็อยู่ในโรงแรมแล้ว เหมือนทุกทีไง ก่อนผมไปส่ง คุณต้องป้อนให้อิ่ม” “พี่นาท!” กีร์ตานแทบจะร้องกรี๊ด เสียงห้าวหัวเราะร่วน พร้อมกับที่ร่างสูงใหญ่เปิดประตูออกไป เมื่อประตูปิดกลับคนข้างหลังซบสะอื้นลงกับคอนโซล จบไปเสียเฉยๆ ก็ปวดร้าวมากพอ ยังจะตามมาเหยียบย่ำซ้ำเติมกันอีก คนอะไรร้ายกาจเหลือเกิน!