คัดสรรบทความของนักเขียน "ผู้สั่นคลอนพรรคคอมมิวนิสต์จีน" "สิ่งที่ตัวผมเองได้เผชิญมาในฐานะนักโทษการเมืองนั้นไม่สามารถเทียบกับสิ่งที่หลิว เสี่ยวโปเผชิญมาได้เลย ทั้งนี้เขาได้เป็นดุจประทีปส่องทางในขณะที่ผมถูกจองจำอยู่ในคุก ความกล้าหาญและความรักของเขามิอาจถูกสกัดกั้นไว้ได้ ถึงแม้เขาต้องเผชิญกับอุปสรรคมามากมายก็ตาม ผมได้แต่หวังว่าในวันข้างหน้าที่จะถึงนี้ ในขณะที่การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยยังผงาดอยู่อย่างต่อเนื่องเราจะปกปักษ์รักษาและให้เกียรติแก่ความกล้าหาญชาญชัยนั้น" จากคำนิยม โดย โจชัว หว่อง "ในสังคมที่รัฐบาลเผด็จการใช้อำนาจเบ็ดเสร็จปราบปรามผู้ไม่เห็นด้วยทางการเมืองอย่างรุนแรงป่าเถื่อนและเหล่านายทุนอ้างผลประโยชน์ในการสนับสนุนอำนาจอาธรรม์ของผู้ปกครองมนุษย์โลกธรรมดาๆ คนหนึ่งซึ่งไม่มีทั้งอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ซื้อกันมาด้วยราคาแพงกว่าความอยู่ดีกินดีของประชาชนและไม่มีทุนทรัพย์อเนกอนันต์อย่างนายทุนที่เห็นค่าของกำไรและดอกเบี้ยมากกว่าศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของเพื่อนร่วมสังคมนั้น เราคงไม่มีทางเลือกมากนักนอกจากจะยืนหยัดอยู่ข้างความจริง...อาจจะทำให้เราถูกกลั่นแกล้งต้องขึ้นโรงขึ้นศาล มันอาจจะทำให้เราต้องถูกจองจำในนิวาศสถานหรือถูกจำคุกและท้ายที่สุดแล้วมันอาจกลายเป็นจุดจบของการมีชีวิตอยู่ของเราเลยก็ได้ แต่ท้ายที่สุดแล้ว...ทั้งหมดนั้นคุ้มค่าเพราะพระเจ้าสร้างมนุษย์ขึ้นตามพระฉายาของพระองค์ ความเป็นมนุษย์นั้นงดงามและความสามารถที่จะมองเห็นตัวเองในกระจกได้โดยไม่ต้องหลบตานั้นคือพระอันประเสริฐที่สุดที่เรามีโอกาสจะได้รับมาในชีวิตหนึ่ง" — ผศ.ดร.วาสนา วงศ์สุรวัฒน์, อาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
คัดสรรบทความของนักเขียน "ผู้สั่นคลอนพรรคคอมมิวนิสต์จีน" "สิ่งที่ตัวผมเองได้เผชิญมาในฐานะนักโทษการเมืองนั้นไม่สามารถเทียบกับสิ่งที่หลิว เสี่ยวโปเผชิญมาได้เลย ทั้งนี้เขาได้เป็นดุจประทีปส่องทางในขณะที่ผมถูกจองจำอยู่ในคุก ความกล้าหาญและความรักของเขามิอาจถูกสกัดกั้นไว้ได้ ถึงแม้เขาต้องเผชิญกับอุปสรรคมามากมายก็ตาม ผมได้แต่หวังว่าในวันข้างหน้าที่จะถึงนี้ ในขณะที่การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยยังผงาดอยู่อย่างต่อเนื่องเราจะปกปักษ์รักษาและให้เกียรติแก่ความกล้าหาญชาญชัยนั้น" จากคำนิยม โดย โจชัว หว่อง "ในสังคมที่รัฐบาลเผด็จการใช้อำนาจเบ็ดเสร็จปราบปรามผู้ไม่เห็นด้วยทางการเมืองอย่างรุนแรงป่าเถื่อนและเหล่านายทุนอ้างผลประโยชน์ในการสนับสนุนอำนาจอาธรรม์ของผู้ปกครองมนุษย์โลกธรรมดาๆ คนหนึ่งซึ่งไม่มีทั้งอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ซื้อกันมาด้วยราคาแพงกว่าความอยู่ดีกินดีของประชาชนและไม่มีทุนทรัพย์อเนกอนันต์อย่างนายทุนที่เห็นค่าของกำไรและดอกเบี้ยมากกว่าศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของเพื่อนร่วมสังคมนั้น เราคงไม่มีทางเลือกมากนักนอกจากจะยืนหยัดอยู่ข้างความจริง...อาจจะทำให้เราถูกกลั่นแกล้งต้องขึ้นโรงขึ้นศาล มันอาจจะทำให้เราต้องถูกจองจำในนิวาศสถานหรือถูกจำคุกและท้ายที่สุดแล้วมันอาจกลายเป็นจุดจบของการมีชีวิตอยู่ของเราเลยก็ได้ แต่ท้ายที่สุดแล้ว...ทั้งหมดนั้นคุ้มค่าเพราะพระเจ้าสร้างมนุษย์ขึ้นตามพระฉายาของพระองค์ ความเป็นมนุษย์นั้นงดงามและความสามารถที่จะมองเห็นตัวเองในกระจกได้โดยไม่ต้องหลบตานั้นคือพระอันประเสริฐที่สุดที่เรามีโอกาสจะได้รับมาในชีวิตหนึ่ง" — ผศ.ดร.วาสนา วงศ์สุรวัฒน์, อาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย