หนังสือเรื่อง "นายอินทร์ ผู้ปิดทองหลัวพระ" นี้ พระบาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงใช้เวลาวว่างวันละเล็กวันละน้อยแปลจากต้นฉบับภาษาอังกฤษเรื่อง "A Man Called Intrepid" ของ William Stevenson เป็นเวลาประมาณสามปี จึงจบบริบูรณ์ เนื้อหาในเล่มเขียนจากชีวิตจริงของ "นายอินทร์" หรือ "Intrepid" ซึ่งเป็นนามรหัสของ "เซอร์วิลเลียม สตีเวนสัน" เป็นหัวหน้าหน่วยราชการลับอาสาสมัครของอังกฤษ ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 การที่พระองค์ต้องใช้เวลานานในการแปล นอกจากมีพระราชกรณียกิจเพื่อพสกนิกรมากมายแล้ว เป็นเพราะ "A Man Called Intrepid" มีเนื้อหาที่สลับซับซ้อนและอิงประวัติศาสตร์ จึงยากต่อการแปล แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเห็นว่าเรื่องนี้มีประโยชน์ต่อมนุษยชาติเป็นอย่างยิ่ง พระองค์จึงทรงใช้เวลาและพระราชวิริยะอุตสาหะแปลถ่ายทอดจากต้นฉบับภาษาอังกฤษ มาเป็นภาษาไทย เพื่อให้คนไทยได้สัมผัสกับ "นายอินทร์ผู้ปิดทองหลังพระ" อย่างใกล้ชิด "นายอินทร์" ถือเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการต่อต้านแผนร้ายของ "อดอร์ฟ ฮิตเลอร์" ซึ่งหวังแผ่อำนาจเข้าครอบครองโลก โดยจัดตั้งหน่วยงานลับขึ้น เพื่อหาความลับทางทหารของเยอรมันรายงานแก่ "เซอร์วินสตัน เชอรซิลล์" นายกรัฐมนตรีอังกฤษ และ "ประธานาธิบดีแฟรงคลิน ดี รูสเวล" ของสหรัฐ ซึ่งได้ร่วมมือกันวางแผนต่อต้านฮิตเลอร์จนฝ่ายพันธมิตรได้รับชัยชนะ ว่ากันว่า หาก "นายอินทร์" และผู้ร่วมงาน ทำงาน้ลมเหลว ฮิตเลอร์อาจจะชนะสงคราม และโฉมหน้าของโลกคงไม่เป็นเช่นทุกวันนี้ สำหรับปฏิบัติงานของ "นายอินทร์" และพวก มีผู้รู้เบื้องหลังเพียงไม่กี่คน จนกระทั่งเมื่อมีหนังสือ...A Man Called Intrepid...ตีพิมพ์ จึงทำให้ "ความลับ" ที่ปิดมานานถูกเปิดเผย "นายอินทร์" และผู้ร่วมงาน ที่ร่วมกันทำงานด้วยความ...กล้าหาญ...เสียสละ ผู้ยอมอุทิศแม้ชีวิตเพื่อ...ความถูกต้อง...ความยุติธรรม...เสรีภาพและ...สันติภาพของโลก พวกเขาทั้งหมดทำงานโดยไม่หวังให้ใครรับรู้ หรือหวังลาภยศคำสรรเสริญเยินยอใดๆ พวกเขาคือ... "ผู้ปิดทองหลังพระ" ...อย่างแท้จริง!
หนังสือเรื่อง "นายอินทร์ ผู้ปิดทองหลัวพระ" นี้ พระบาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงใช้เวลาวว่างวันละเล็กวันละน้อยแปลจากต้นฉบับภาษาอังกฤษเรื่อง "A Man Called Intrepid" ของ William Stevenson เป็นเวลาประมาณสามปี จึงจบบริบูรณ์ เนื้อหาในเล่มเขียนจากชีวิตจริงของ "นายอินทร์" หรือ "Intrepid" ซึ่งเป็นนามรหัสของ "เซอร์วิลเลียม สตีเวนสัน" เป็นหัวหน้าหน่วยราชการลับอาสาสมัครของอังกฤษ ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 การที่พระองค์ต้องใช้เวลานานในการแปล นอกจากมีพระราชกรณียกิจเพื่อพสกนิกรมากมายแล้ว เป็นเพราะ "A Man Called Intrepid" มีเนื้อหาที่สลับซับซ้อนและอิงประวัติศาสตร์ จึงยากต่อการแปล แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเห็นว่าเรื่องนี้มีประโยชน์ต่อมนุษยชาติเป็นอย่างยิ่ง พระองค์จึงทรงใช้เวลาและพระราชวิริยะอุตสาหะแปลถ่ายทอดจากต้นฉบับภาษาอังกฤษ มาเป็นภาษาไทย เพื่อให้คนไทยได้สัมผัสกับ "นายอินทร์ผู้ปิดทองหลังพระ" อย่างใกล้ชิด "นายอินทร์" ถือเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการต่อต้านแผนร้ายของ "อดอร์ฟ ฮิตเลอร์" ซึ่งหวังแผ่อำนาจเข้าครอบครองโลก โดยจัดตั้งหน่วยงานลับขึ้น เพื่อหาความลับทางทหารของเยอรมันรายงานแก่ "เซอร์วินสตัน เชอรซิลล์" นายกรัฐมนตรีอังกฤษ และ "ประธานาธิบดีแฟรงคลิน ดี รูสเวล" ของสหรัฐ ซึ่งได้ร่วมมือกันวางแผนต่อต้านฮิตเลอร์จนฝ่ายพันธมิตรได้รับชัยชนะ ว่ากันว่า หาก "นายอินทร์" และผู้ร่วมงาน ทำงาน้ลมเหลว ฮิตเลอร์อาจจะชนะสงคราม และโฉมหน้าของโลกคงไม่เป็นเช่นทุกวันนี้ สำหรับปฏิบัติงานของ "นายอินทร์" และพวก มีผู้รู้เบื้องหลังเพียงไม่กี่คน จนกระทั่งเมื่อมีหนังสือ...A Man Called Intrepid...ตีพิมพ์ จึงทำให้ "ความลับ" ที่ปิดมานานถูกเปิดเผย "นายอินทร์" และผู้ร่วมงาน ที่ร่วมกันทำงานด้วยความ...กล้าหาญ...เสียสละ ผู้ยอมอุทิศแม้ชีวิตเพื่อ...ความถูกต้อง...ความยุติธรรม...เสรีภาพและ...สันติภาพของโลก พวกเขาทั้งหมดทำงานโดยไม่หวังให้ใครรับรู้ หรือหวังลาภยศคำสรรเสริญเยินยอใดๆ พวกเขาคือ... "ผู้ปิดทองหลังพระ" ...อย่างแท้จริง!